ข้อพึงละเว้นสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ณ สวนธรรมะโพธิญาณ
ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนพึงพยายามมีสติรู้เท่าทัน และละเว้นเสียซึ่งอกุศลกรรมทาง กาย วาจา ใจ อันจะเป็นอุปสรรครบกวนจิตใจ และขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติ ทั้ง 57 ประการ ดังต่อไปนี้
- การคิดมุ่งร้าย หรือการคิดไม่ดีต่อผู้อื่น
- ความพยาบาท อาฆาตแค้นผู้อื่น
- การปกปิดซ่อนเร้นความไม่ดีของตน
- ความประสงค์ร้าย หรือเกลียดชัง
- การเสแสร้ง แกล้งทำอำพราง หลอกลวง
- การใช้กลอุบายหลอกลวง คดโกง หรือความไม่ซื่อตรง
- การอิจฉา ริษยา เมื่อผู้อื่นกระทำคุณความดี
- ความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่กล้าที่จะให้
- ความไม่รู้จักละอาย เมื่อกระทำสิ่งไม่ดี ไม่สมควร
- ความไม่รู้จักเกรงกลัว เมื่อกระทำสิ่งไม่ดี ไม่สมควร
- การหลงตน ลำพองตน เห็นว่าตนเองดีกว่าผู้อื่น
- ความพยายามกระทำในเรื่องที่ผิด ด้วยความมุ่งร้าย คิดร้าย
- ความเย่อหยิ่งยโส จองหอง อวดดี
- ความไม่รอบคอบ ไม่ระมัดระวัง
- ความหลงตนทั้ง 7 แบบ ได้แก่
- หลงในความเป็นตนเอง คือหลงคิดว่าตน แย่กว่าผู้ที่แย่ เสมอกับผู้ที่เสมอกัน หรือดีกว่าหรือเสมอกับผู้ที่แย่
- ทะนงตน หลงคิดว่าตน เท่าเทียมกับผู้ที่ดีกว่าตน
- ทะนงตน หลงคิดว่าตนสูงกว่า ผู้ที่สูงกว่าตน เป็นความหลงตนที่ยิ่งกว่าความหลงตนใดๆ
- หลงตน ยึดมั่นในความเป็นตัวตนของตน
- หลงตนโดยความเพ้อฝัน คือหลงคิดว่าตนได้รับมรรคผล ทั้งที่ยังไม่ได้บรรลุผลใดๆ
- หลงตนอยู่ในความผิดพลาด ปฏิเสธการแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเอง
- หลงว่าตนต้อยต่ำ คือดูถูกตนเอง หลงคิดว่าตนแย่ เกลียดตัวเอง
- การแสร้งทำ ด้วยการควบคุมความรู้สึกของตนเพื่อลาภ สักการะ
- การพูดยกยอ สอพลอ ทำให้ผู้อื่นพึงพอใจเพื่อลาภ สักการะ
- การชมเชยทรัพย์สมบัติของผู้อื่น เพื่อให้ได้มาเป็นของตน
- การเยาะเย้ย ถากถางผู้อื่น เพื่อให้ได้ผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งแก่ตน
- การยกยอ ยกย่องชมเชยการได้มาซึ่งผลประโยชน์ในครั้งก่อนๆ เพราะความอยากได้ ผลประโยชน์ในครั้งใหม่
- การตอกย้ำความผิดของผู้อื่น ด้วยการพูดถึงความผิดของผู้นั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยจิตที่มุ่งร้าย
- ความไม่เกรงใจ การทำให้ผู้อื่นลำบากโดยไม่สนใจว่าจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอย่างไร
- ความยึดติด หรือการยึดมั่นในนิสัยไม่ดีของตนเอง เพราะเกียจคร้านที่จะพัฒนา
- การเลือกที่รักมักที่ชัง หรือการหลงเลือก แยกแยะสิ่งต่างๆ ด้วยใจที่โลภ โกรธ หลง
- การไม่รู้จักดูจิตใจของตน รวมถึงการไม่ใช้ใจกับสิ่งต่างๆ และการไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา
- ความเสื่อมถอยของการศรัทธาในการปฏิบัติ เนื่องมาจากความเกียจคร้าน
- การเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่แสร้งทำเป็นว่า รู้ทางไปสู่มรรคผล
- ความกระหายต้องการ หรืออาการยึดติดพัวพันของใจอย่างอ่อน อันเกิดจากราคะตัณหา
- การถูกครอบงำจิตใจ หรืออาการยึดติดพัวพันของใจอย่างรุนแรง อันเกิดจากราคะตัณหา
- ความหวงของ หรือการยึดติดในทรัพย์สมบัติ สิ่งของ ของตนอย่างเหนียวแน่น
- ความละโมบอันไม่เหมาะสม หรือการยึดติดในทรัพย์สมบัติ สิ่งของ ของผู้อื่น
- ความมักมากในกาม ด้วยการกล่าวชื่นชมผู้อื่นด้วยจิตที่เต็มไปด้วยความกำหนัด
- การประพฤติตนหลอกลวง โดยการเสแสร้งเป็นคนดี ทั้งที่ตนยังบกพร่องอยู่ ด้วยความปรารถนาชั่วภายใน
- ความละโมบโลภมาก หรือความอยากได้มากอย่างไม่รู้จักพอ
- ความละโมบในผลประโยชน์ คือการแสวงหา อยากได้ชื่อว่าเป็นคนดี โดยไม่เกี่ยงวิธีการ
- การขาดความอดทนต่อความทุกข์ยากลำบาก
- การทำตนไม่เหมาะสม คือไม่ให้ความเคารพต่อการกระทำของครูบาอาจารย์
- การเป็นคนดื้อรั้น ไม่ฟังคำแนะนำ หรือไม่ให้ความเคารพต่อคำแนะนำของครูบาอาจารย์
- การคลุกคลีกับญาติมิตร หรือความยึดติดในอารมณ์อันละเอียดอ่อน ที่ยังมีต่อญาติมิตร
- การยึดติดในวัตถุ หรือการผูกพันในข้อดีต่างๆของมัน จนอยากได้มาเป็นเจ้าของ
- การเพ้อฝันในชีวิตนิรันดร หรือการเพิกเฉย ไม่สนใจ ต่อเรื่องความตาย
- ความหลงพึงพอใจตนเอง หลงคิดว่าตนมีคุณสมบัติที่ดี จึงได้เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ
- การช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยจุดประสงค์เพราะความต้องการอยากได้ ทางโลก ของตน
- การไม่ช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยจิตที่มุ่งร้าย หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
- ความไม่ชอบใจ มีจิตที่หวั่นไหวต่อการกระทบ
- ความปรารถนา มักมากทางเพศ อันไม่เหมาะสมกับ กาลเทศะ บุคคล และ ตนเอง
- ความเฉยเมย มีจิตที่เกียจคร้าน ไม่สนใจสิ่งใด
- การแสดงออกทางกาย ด้วยสีหน้า ท่าทาง ที่ไม่ดีต่อผู้อื่น อันเนื่องมาจากอารมณ์ด้านลบ
- การกินมากเกินควร จนเกียจคร้าน และ เฉื่อยชา
- การมีจิตใจหวาดกลัว อ่อนแอ ขี้ขลาด หดหู่หมดกำลังใจ
- การดิ้นรนแสวงหาไปในโลกธรรม ทำให้มีความปรารถนาต้องการอยู่เสมอ
- ความพยาบาท มุ่งร้ายต่อผู้อื่น มีความกระวนกระวายใจเกี่ยวกับตนเอง มิตร ศัตรู ทั้งในเรื่องอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
- ความเกียจคร้าน ทื่อทึบ เนื่องเพราะกายหนัก จิตหนัก
- ความเฉื่อยชา ง่วงเหงา เซื่องซึม ไม่กระฉับกระเฉง อยากแต่นอน
- ความตื่นเต้น กระสับกระส่ายอย่างรุนแรงของกาย และจิต
- ความหดหู่เศร้าใจ ในความผิดหรือการกระทำไม่ดีของตน
- ความสงสัยลังเล สับสน ขัดแย้งภายใน เกี่ยวกับสัจธรรม และพระรัตนตรัย
“โพธิสัตว์ผู้ยังครองเรือน พึงกำหนดละเว้นสิ่งเหล่านี้ ส่วนโพธิสัตว์ผู้ถือพรหมจรรย์ ก็พึงกำหนดละเว้นให้มากยิ่งขึ้น หากปราศจากสิ่งบกพร่องเหล่านี้ ก็จะบังเกิดกุศลอันยิ่ง”
(แก่นธรรมจากรัตนวลี)