คนเราทุกข์เพราะความหลงยึดมั่นถือมั่นขันธ์นี้โดยความเป็นตัวตน
เริ่มตั้งแต่ ตัวตนละเอียด คือ หลงว่าขันธ์เป็นสิ่งจริง (ไม่ใช่มายา)
ตัวตนกลาง คือ สักกายทิฐิ – หลงในความเป็นเรา รูปนามนี้คือเรา เราคือรูปนาม ไปจนถึงกายของเรา ความรู้สึกนึกคิดของเรา
ตัวตนหยาบคือ มานะ – คือหลงตนดีกว่า เสมอ หรือ ต่ำกว่าผู้อื่น
มันไม่ใช่แค่ความเข้าใจ ว่าขันธ์ห้าไม่ใช่เรา ขันธ์ห้าว่างเปล่า เท่านั้น
มันต้องหมายถึงการเห็นแล้วและละวางมันได้ด้วย
สำหรับผู้ที่สามารถเข้าไปเห็นแจ้งและละวางตัวตนในระดับละเอียดได้
ตัวตนระดับหยาบกว่า ก็ย่อมจะถูกละวางไปพร้อม
ดังนั้น แม้เราคิดว่าเราได้พิจารณาเรื่องนี้ดีแล้ว เราก็ควรจะสังเกต อาการหยาบๆ ทั้งหลายของตัวตนที่เกิดขึ้น
หากยังมีอยู่ นั่นแสดงว่าเรายังละวางมันไม่ได้
แล้วอะไรล่ะคือตัวตนหยาบๆ ที่จะสังเกตได้ง่าย
เราดูถูกผู้อื่นหรือไม่
เราคิดว่าตนดีกว่า เก่งกว่า รู้ดีกว่าผู้อื่นหรือไม่
เราหลงยึดในสิทธิของตนหรือไม่ คิดว่าเรามีสิทธิจะทำอะไรก็ได้ในขอบเขตสิทธิของตน
เรายังหลงยึดในความถูกความดีที่เราคิดหรือไม่
เราโกรธขุ่นเคืองเมื่อคนอื่นไม่เป็นอย่างที่เราคิดหรือไม่
หากยังมีความรู้สึกพวกนี้ ต้องจัดการกับมันก่อน เพราะมันแสดงให้เห็นว่า
เรายังอ่อนแอ หลงหลุดปรุงแต่งยืดยาวเกินไปมาก
ความยึดมั่นของเรามันแรง แต่อินทรีย์ของเราอ่อน
อย่าไปหลงเชื่อแค่ความเข้าใจที่มีว่าขันธ์ห้าไม่ใช่เรา
Comments are closed