Featured
ยินดีต้อนรับ

ยินดีต้อนรับ

ยินดีต้อนรับเข้าสู่สวนธรรมะโพธิญาณ จ.ชัยภูมิ

สวนธรรมะโพธิญาณ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งก่อกําเนิดขึ้นจากการดําริของท่านอาจารย์หมอดิลก พูนสวัสดิ์ และกลุ่มญาติธรรมผู้มีจิตศรัทธา เมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดสรรสถานที่ให้เกิดความสัปปายะเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อการดําเนินชีวิตที่เกื้อกูลต่อการประพฤติปฏิบัติธรรม

โดยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจวิธีการปฏิบัติธรรมตามแนวทางคําสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกท้ังเปิดโอกาสให้บุคคลทุกเพศ ทุกวัย ทั้งนักบวช และฆราวาส ที่มีจิตศรัทธาในการแสวงหาทางพ้นทุกข์ โดยไม่จํากัดเชื้อชาติ ศาสนา ได้มาศึกษาสัจธรรมความจริงของชีวิต ด้วยการเรียนรู้ธรรมชาติกายจิตของตนเอง อย่างสอดคล้องกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ เพื่อให้ผู้ที่กําลังแสวงหาแนวทางในการปฏิบัติธรรมได้เข้าใจวิถีทางในการดําเนินชีวิตที่ถูกต้อง ตรงทาง และเกิดความเห็นที่ถูกต้องในการปฏิบัติธรรม อันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สําคัญของการฝึกฝน ปฏิบัติ เรียนรู้ และพัฒนาจนทําให้เกิดปัญญาเพื่อการดําเนินจิตไปสู่ความพ้นทุกข์ในที่สุด

เมื่อเข้าใจชัดในสุญญตา ความรักความเมตตาจึงจะบริสุทธิ์ และเมื่อความรักความเมตตาบริสุทธิ์ จึงจะเข้าถึงสุญญตาที่แท้จริง

– อาจารย์หมอ

หากบนเส้นทางแห่งความพ้นทุกข์ เรากลับขาดซึ่งความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์
เช่นนั้นแล้ว 
ความพ้นทุกข์แต่เพียงผู้เดียวของเรา จะมีประโยชน์อันใดแก่โลก?

หากความพ้นทุกข์ คือการรู้แจ้งหลุดพ้นจากความหลงยึดติดโดยความเป็นตัวตน
เช่นนั้นแล้ว
บนทางเดินนี้ เราจะดำเนินไปด้วยความเห็นแก่ตัวเราเองได้อย่างไร?

และหากเราเดินไปบนทางๆนี้ โดยคำนึงถึงแต่เพียงตัวเราเองผู้เดียว
เช่นนั้นแล้ว
แน่ใจหรือว่า เรากำลังดำเนินไปสู่การหลุดพ้น จากการยึดติดโดยความเป็นตัวตน?

– อาจารย์หมอ

อ่านต่อ
โลกทั้งใบอยู่ที่ใจดวงเดียว

โลกทั้งใบอยู่ที่ใจดวงเดียว

พูดอยู่เสมอว่า ทุกอย่างมันเกิดจากจิต
โลกทั้งใบอยู่ที่ใจดวงเดียว

แม้คนร่างกายแย่ แต่จิตใจเขาดี เขาก็มีสุข
คนที่ร่างกายยัง intact ดีแต่จิตใจไม่ดี ก็มีแต่สร้างทุกข์

การหลงคิดว่า “ตนด้อย ไม่มีใครเข้าใจเรา เราทุกข์ เรามีปัญหา” นั่นมันทางเสื่อม
แม้จะพยายามให้กำลังใจตนว่า “ต้องดีขึ้นสักวัน” ก็อาจดูดี
แต่ก็เป็นเพียงการปรุงแต่ง หลอกตัวเอง และมีแต่สร้างความเครียดสะสม
เข็มทิศตั้งไว้ผิด มันก็มีแต่จะไปผิดทาง… อ่านต่อ

การกระทบ

การกระทบ

ธรรมะใดๆ ระดับไหนก็ตาม
เราจะมีจริงหรือไม่ ต้องนำมาใช้กับการกระทบ
หากเมื่อกระทบแล้วเราคงใจที่ตั้งมั่นอยู่บนธรรมนั้นได้
ก็ถือว่าธรรมนั้นได้ลงสู่ใจ
เรียกว่า install ได้ติด

การปฏิบัติ มันต้องให้ธรรมเข้าสู่ใจ
ไม่ใช่แค่เข้าสมอง แค่รู้ แค่จำ หรือแค่สัญญา… อ่านต่อ

Remind Dharma

Remind Dharma

จงทำทุกๆขณะของเราให้ทรงคุณค่า

ไม่ว่าเราจะทำอะไร เรื่องของโลก หรือเรื่องของธรรม

จงทำด้วยจิตที่ตื่นรู้ เบิกบาน และ Enjoy กับมัน

เห็นในคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งที่เรากำลังกระทำ

ใช้ปัญญาเรียนรู้แก้ไขปรับปรุง ด้วยจิตที่ใฝ่เรียนรู้ มุ่งผลให้เกิดทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน… อ่านต่อ

หมั่นสังเกตและพิจารณา

หมั่นสังเกตและพิจารณา

เมื่อเธอสามารถตั้งมั่นอยู่บนสติในฐานทั้งสามได้แล้ว
สิ่งที่ควรเริ่มพิจารณาบ่อยๆ เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่ความรู้แจ้งหลุดพ้น คือ

  1. พิจารณาให้เห็นว่า การรับรู้ทางอายตนะทั้งหลายนั้นล้วนเกิดขึ้นเพราะอิงอาศัยเหตุปัจจัยมาประกอบกัน

เช่น การเห็นรูป หรือการปรากฏขึ้นของรูป ให้แยกแยะเหตุปัจจัยของรูป ของตา ของจักขุวิญญาณที่รับรู้ และจิตที่หิ้วเอาสัญญาสังขารมาให้ความหมายเติมคุณค่าต่อรูปนั้น

เมื่อแยกแยะได้แล้ว เข้าใจถึงเหตุปัจจัยในการปรากฏขึ้นของรูป
ก็ให้พิจารณาต่อด้วยปัญญาให้ได้บทสรุปให้ได้ว่า… อ่านต่อ

สามสิ่ง

สามสิ่ง

สามสิ่งที่เธอต้องมองให้เห็นแจ้งเป็นพื้นฐาน ก่อนเธอจะเข้าสู่ความหลุดพ้น คือ

  1. ปรากฏการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏล้วนเกิดไปจากจิต
  2. จิตและกิริยาทั้งหลายของจิตล้วนว่างเปล่า
  3. ปรากฏการณ์ จิต และความว่าง ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน

สามสิ่งพื้นฐานที่เธอต้องตั้งมั่น ก่อนที่เธอจะเห็นแจ้งได้เช่นนั้น คือ… อ่านต่อ

REMIND DHARMA

REMIND DHARMA

หัดลองสังเกตดูสิ ขณะที่เธอกำลังเห็นอยู่นี่ มันมีภาพอะไรอยู่บ้างที่เธอกำลังเห็น
มากมายเลยใช่มั๊ย
แล้วทำไมเธอถึงสนใจเพียงภาพใดภาพหนึ่งล่ะ

แล้วเธอลองสังเกตดูสิ ขณะที่เธอกำลังได้ยินอยู่นี่ มันมีเสียงอะไรอยู่บ้างที่เธอกำลังได้ยิน
มากมายเลยเช่นกันใช่มั๊ย
แล้วทำไมเธอถึงสนใจเพียงเสียงใดเสียงหนึ่งล่ะ… อ่านต่อ

หลง

หลง

จะหลงอะไรกับสิ่งของทั้งหลายที่เธอได้มา
เธอไม่เคยใช้มันได้อย่างคุ้มค่า แถมยังต้องแบกภาระในการดูแลรักษามัน แล้ววันหนึ่ง เธอก็ต้องสูญเสียมันไปแน่นอน

จะหลงอะไรกับคำชม
ยามเธอทำในสิ่งที่ถูกใจเขา เขาก็ชมเธอ เพื่อเอาใจเธอไปอย่างนั้นล่ะ
แต่หากเธอลองทำในสิ่งที่ไม่ถูกใจเขาดูสิ
เขากลับจะด่าเธอเหมือนหมูเหมือนหมา… อ่านต่อ

ติดโลกธรรม

ติดโลกธรรม

เราติดโลกธรรมแค่ไหน?

เรียนรู้กันไปมากแล้ว เราลองกลับมาสำรวจตรวจสอบตัวเราเองว่า

1. ยามเมื่อเรากระทบกับรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เรารู้เท่าทันความพอใจไม่พอใจที่เกิดขึ้น และสงบใจวางเฉยกับมันได้หรือว่า
เราดิ้นรนไปกับมัน เช่น ไม่อาจหักห้ามใจได้ที่จะเอามันมาไว้, หรือเสียอกเสียใจหากต้องสูญเสียหรือไม่ได้มันมา

2. เมื่อเราได้รับสิ่งของที่เคยชอบ เรารู้สึกดีใจเล็กน้อยหรืออาจเฉยๆ และมองเห็นว่าเรามีหน้าที่ดูแลรักษามันให้ดีและต้องใช้ประโยชน์จากมันให้คุ้มค่า
หรือว่า
เราดีใจแบบออกนอกหน้า เหมือนเด็กได้ของเล่น, เราไม่เคยสนใจที่จะเรียนรู้มัน, เราทอดธุระหรืออาจลืมไปเสียด้วยว่าเราได้มันมา… อ่านต่อ

หลงตัดสิน

หลงตัดสิน

ทำไมคนเราชอบตัดสิน ชอบให้ค่ากับสิ่งต่างๆว่า ดีไม่ดี ถูกผิด

ทั้งหมดมันล้วนมาจากอัตตาทิฐิ (ความหลงในความมีคุณค่าที่แท้จริงเช่นนั้น) เป็นรากฐานในการรับรู้

ซึ่งก็เป็นเพราะ ความหลง ความไม่เข้าใจความจริงว่า

ทุกสิ่งล้วนมิได้มีคุณค่าความหมายที่แท้จริง มันแปรเปลี่ยนตามกาละ เทศะ บุคคล

เมื่อไม่แจ้งชัดในความจริง(อวิชชา) ก็หลงปรุงแต่ง… อ่านต่อ

พากเพียร

พากเพียร

สิ่งที่ยากที่จะเปลี่ยน คือ มิจฉาทิฐิ
สิ่งที่ยากที่จะทำให้มี คือ สัมมาทิฐิ

สิ่งที่ยากที่จะเปลี่ยน คือ ความเคยชินจากความหลงเดิมๆ
สิ่งที่ยากที่จะทำให้มี คือ ชีวิตบนทางแห่งธรรม

สิ่งที่ยากที่จะเปลี่ยน คือ ทิฐิมานะและความเห็นแก่ตัว
สิ่งที่ยากที่จะทำให้มี คือ ความไม่ถือตนและความรักความเมตตา… อ่านต่อ